อุจจาระค้างในลำไส้...... อันตรายกว่าคิด

3:04 AM
เจ้าปัญหาที่ว่ามาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด อากาศหลายอย่าง ตั้งแต่ ท้องอืด ปวดหลัง ปวดตัว ยันไม่เกรน
วิธีที่แก้ให้อาการอุจจาระค้างลำไส้นั้นไม่ยาก เริ่มจากกินเมนูง่ายๆ เช่น นมกล้วย นมหวานโซดา น้ำเม็ดแมงลัก น้ำงาดำ
วิธีทำก็ง่ายแสนง่ายมาดูกัน อุจจาระตกค้างในลำไส้เกิดจากการที่เราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารที่มีกากใยน้อย และระบบดูดซึมไม่ดี เป็นเหตุให้เวลาเราถ่ายจะถ่ายไม่หมด อุจจาระที่ค้างก็จะไปเกาะผนังลำไส้ เมื่อเกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ อุจจาระจะไปตกค้างทับเส้นเลือดในกระเพาะและกดทับกระดูกบริเวณหลัง ส่งผลให้มีอาการดังนี้ตามมา เช่น ปาดหลัง ท้องอืด เป็นไมเกรน


นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวช ศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า เราสามารถตรวจด้วยตัวเองได้ว่าเรามีอุจจาระค้างในลำไส้หรือไม่ เริ่มจากการนอนหงายแล้วเอามือคลำท้องด้านซ้ายล่าง เลยสะดือทางซ้ายไปหน่อย แล้วเอานิ้วทั้ง 5 ลองกดดูจนลึกและเลื่อนไปมา หากมีค้างอยู่จะคลำได้เป็นแท่งยาวๆ อยู่ตามรูปลักษณ์ของลำไส้

หลายคนอาจจะกังวลว่าจะทำอย่างไรดีให้อาการอุจจาระตกค้างในลำไส้หายไป ต้องผ่าตัดหรือเปล่า ไม่ยากขนาดนั้นค่ะ เรารักษาอาการดังกล่าวเริ่มได้ที่การกิน มีสูตรง่ายๆมาฝากค่ะ

แบ่งสูตรอาหารแก้อุจจาระตกค้างได้เป็น 2 กลุ่ม

1.สูตรล้างกลุ่มนม

- กินนมสด 2 กล่องกับกล้วยน้ำว้า 2 ลูก ตอนเช้า ก่อนอาหาร

- นำนมสด 2 กล่อง โยเกิร์ต 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำส้มหรือน้ำมะนาว รสชาติตามชอบ ทิ้งไว้อย่าง น้อย 15 นาที แล้วดื่มตอนเช้าก่อนอาหาร

- นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ โซดา 1 แก้วใหญ่ ชงให้เช้ากัน ดื่มก่อนนอน

2.สูตรล้างกลุ่มผัก

- ให้กินผักใบเขียวและผักมีเมือก ๆ ทุกชนิด เช่น ผักบุ้งแดงวันละ 2 กำมือ ผักกุยไซ่ กระเจี๊ยบเขียว บวบ น้ำเต้า ตำลึง เป็นต้น

- นำเม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ชงกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ทิ้งไว้ให้พอง ดื่มก่อนนอน

- ใช้มะขามเปียก (แกะเมล็ดออก) 8 ส่วน นำมานึ่ง นำข่าแห้งตำละเอียด 1 ส่วน เกลือป่น 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน คลุกด้วยผงชะเอมหรือผงบ๊วย ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ กินเพื่อระบายอุจจาระและช่วยฟื้นฟูปลายประสาท

- นำงาดำ 1 ขีดมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง คั่วให้สุก ปั่นให้ละเอียดแล้วคลุกกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (ให้รีบคลุกทันที เพราะ งาป่นหรือถั่วป่นทุกชนิด ถ้าทิ้งไว้เกิน 20 นาที เชื้อราจะเข้าไป การคลุกด้วยน้ำผึ้งช่วยป้องกันเชื้อราได้) ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ เวลากินนำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มตอนเช้าทุกวัน

- ดอกแพงพวยฝรั่ง เด็ดกลีบกินตามจำนวนเท่าอายุ

- ดอกชุมเห็ดเทศ นำดอกชุมเห็ด 1 ช่อเท่ากับ 1 ดอก นำมาลวกราดน้ำกะทิจิ้มน้ำพริกกิน ห้ามกินเกิน 3 ดอก/วัน

เรียบเรียงข้อมูลจาก : lifestyle.th.msn.com และ Thai Self Care — with Kittichai Hoklang and Thidarat Patthong.

ที่มา : Facebook

Related Posts:

Previous
Next Post »